ครม. มีคำสั่งเห็นชอบให้ สมศ. ยกเลิกระบบประเมินสถานศึกษาแบบเดิม เปลี่ยนมาใช้ระบบออนไลน์ เพื่อลดภาระงานของครู รวมทั้งเป็นการเพิ่มคุณภาพการศึกษา

831

ครม. มีคำสั่งเห็นชอบให้ สมศ. ยกเลิกระบบประเมินสถานศึกษาแบบเดิม
เปลี่ยนมาใช้ระบบออนไลน์ เพื่อลดภาระงานของครู
รวมทั้งเป็นการเพิ่มคุณภาพการศึกษา

          
จากกรณีกระแสเรียกร้องให้มีการปรับปรุงระบบการประเมินคุณภาพของ
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ก่อนจะมีการประเมินรอบที่ 4
เพื่อป้องกันปัญหาอย่างที่ผ่านมา โดยอยากให้มีการปรับปรุงในด้านต่าง ๆ อาทิ
ตัวชี้วัดการประเมินต้องสะท้อนคุณภาพและสามารถนำมาใช้พัฒนาคุณภาพได้จริง
มาตรฐานการประเมินต้องดี ไม่เป็นภาระงานมาก
และมีการประเมินเชิงพื้นที่มากขึ้น ซึ่งคณะทำงานของ สม
ศ. ได้ข้อสรุปว่าต้องการให้ยกเลิกการประเมินแบบเดิม
ที่เป็นการไปประเมินตามโรงเรียนหรือสถานศึกษา
ซึ่งจะต้องมีการจัดเตรียมเอกสารเป็นจำนวนมาก มาเป็นการประเมินแบบออนไลน์
บูรณาการใช้ข้อมูลของหน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาเป็นหลัก
เพื่อเป็นการลดภาระแก่ครู
เว้นเฉพาะกรณีที่โรงเรียนมีข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นปัญหาหรือมีความผิดปกติ
ก็ให้เข้าไปประเมินเชิงลึกเป็นกรณีไป
โดยข้อเสนอดังกล่าวจะถูกส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความ
เห็นชอบนั้น

           ล่าสุดวันนี้ (27 พฤษภาคม 2558) ทวิตเตอร์ของผู้สื่อข่าว @ArmUpdate มีรายงานว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรี มีคำสั่งเห็นชอบให้ สมศ. ยกเลิกการประเมินสถานศึกษาแบบเดิมที่ต้องไปประเมินที่โรงเรียน ซึ่ง
ทางโรงเรียนหรือสถานศึกษาต้องจัดเตรียมเอกสารไว้จำนวนมากแล้ว
ส่งผลดีต่อครูที่ไม่ต้องแบกรับภาระงานมากเกินไปและเพื่อนำเวลามาเพิ่มคุณภาพ
การศึกษาให้ดีขึ้น

ข่าวจากเดลินิวส์

„วันนี้(27พ.ค.)ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ
ในฐานะกรรมการในคณะทำงานพิจารณาหลักเกณฑ์การประเมินภายนอก กล่าวว่า
การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (ปีงบประมาณ 2558-2563)
ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
จะเลื่อนออกไปจากเดิมที่กำหนดในเดือนตุลาคม 2558 เป็นเดือนเมษายน 2559
และจะเป็นการประเมินในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งคณะทำงานจะมีเวลาอีกประมาณ 9
เดือนในการจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการประเมิน
ให้สอดคล้องกับสภาพและปัญหาของโรงเรียนกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งจากข้อมูลของ
สมศ.พบว่า มีโรงเรียนประมาณ 30% ที่ไม่ผ่านการประเมินอย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้นจะใช้ข้อมูลของ สมศ. เป็นตัวชี้เป้าว่า
ต้องไปพัฒนาโรงเรียนกลุ่มนี้ด้านใดได้บ้าง

“การรื้อระบบการประเมินคุณภาพภายนอก คงจะทำให้ครูเฮ
เพราะที่ผ่านมามีเสียงบ่นจากครูมาตลอดว่า
การประเมินที่ผ่านมาสร้างภาระอย่างมาก
นอกจากนี้เชื่อว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณในการส่งผู้ประเมินลงพื้นที่ประเมิน
โรงเรียนได้ด้วย”ดร.อมรวิชช์กล่าว

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า
การปรับปรุงระบบการประเมินคุณภาพภายนอกดังกล่าว
จะลดภาระการประเมินของสถานศึกษาลงได้
เพราะที่ผ่านมามีข้อร้องเรียนจากโรงเรียนและสถานศึกษาเสมอ ว่า
ต้องใช้เวลาในการเตรียมเอกสารมาก อีกทั้งผู้ประเมินมีมาตรฐานไม่เท่ากัน
ดังนั้นวิธีการประเมินโดยระบบออนไลน์จะช่วยลดภาระเรื่องเอกสาร
งานธุรการลงได้ เพราะใช้การส่งข้อมูลแบบออนไลน์ ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ของ
สมศ.เข้าไปประเมินที่โรงเรียน และจะเป็นการประเมินโดยสมัครใจ
ใครมีปัญหาก็จะได้รับความช่วยเหลือ
ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ผู้เกี่ยวข้องน่าจะยินดี
อย่างไรก็ตามการประเมินคุณภาพยังมีความจำเป็น แต่ต้องปรับรูปแบบให้เหมาะสม
และไม่เป็นภาระของโรงเรียน “