นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ
พล.ต.ต.อนุศักดิ์ โกมลศาสตร์ ผบก.อก.บช.น. นายอดินันท์ ปากบารา
เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.)
และผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษาของรัฐและเอกชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่
เป็นกลุ่มเสี่ยง ประมาณ 40 แห่ง
ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 16 มาตรการ
เพื่อทำให้อาชีวศึกษามีความเป็นกลุ่มเดียวกันไม่แยกสถาบัน
เป็นมาตรการที่มีความเข้มข้นมากขึ้น
1.
ให้มีการสั่งปิดสถานศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาททั้งชั่วคราวและถาวร แต่จะดำเนินการอย่างระมัดระวัง
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักศึกษาจำนวนมาก
2. ปรับเปลี่ยนเครื่องแบบนักเรียน
นักศึกษาอาชีวะ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสรุปข้อดี ข้อเสียใน 2 รูปแบบคือ
เปลี่ยนให้ใส่ชุดไปรเวท มาเรียนพอเข้าสถาบันค่อยใส่เสื้อช็อป หรือใส่เครื่องแบบที่เหมือนกันทั้งประเทศ
แต่ก็ยังมีผู้แย้งว่า หากใส่เหมือนกันก็ยังรู้ได้ว่าเป็นเด็กอาชีวะ หากได้ข้อสรุปจะเริ่มดำเนินการทันที
3. ดำเนินโครงเตรียมความพร้อมอาชีวศึกษา โดยจับเอานักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
(ปวช.)1 ต่างสถาบันมาใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อจะได้รู้จักและเป็นเพื่อนกัน
4.
ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารช่วยอบรมสร้างระเบียบวินัย
5.
สนับสนุนให้เรียนหลักสูตรรักษาดินแดน(รด.) โดยทางพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการ ศธ.
จะไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
6. ให้แต่ละสถาบันจัดเวลาเข้า-
เลิกเรียนไม่ให้ตรงกัน
7. สนับสนุนการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีร่วมกับภาคเอกชนมากขึ้น
8. ส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมทั้งในเชิงสร้างสรรค์มากขึ้นทั้งจิตอาสา กีฬา และดนตรี
9.ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอดส่องดูแลอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง
รวมถึงให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนรับผิด
ชอบด้วย
10.
ให้สถานศึกษารวบรวมข้อมูลนักเรียนกลุ่มเสี่ยง
และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามและพูดคุยกับผู้ปกครองที่บ้าน
11.
ดูแลตรวจค้นอาวุธร้ายแรงทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา
12. ใช้วิธีทางจิตวิทยาเข้าช่วย
ทำให้เด็กเห็นว่าการทะเลาะวิวาทเป็นสิ่งไม่ดี และเกิดผลกระทบกับสังคม
13.
มาตรการปะ ฉะ ดะ ซึ่งทางพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ดำเนินการตรวจสอบ
ป้องกันอย่างเข้มข้นทำให้ไม่เกิดปัญหาทะเลาะวิวาท และมีเด็กนักเรียนเพิ่มขึ้น
14.
สร้างความเข้มแข็ง และสัมพันธภาพของสถานศึกษาที่อยู่ใกล้กัน
15.
ดำเนินการกับศิษย์เก่าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
16.
ห้ามจัดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมในสถานศึกษา เช่น จัดรับน้อง
นอกจากนั้นที่ประชุมยังหารือว่า ควรจะนำมาตรการดี ๆ
ที่แต่ละวิทยาลัยดำเนินการไปแล้วมาขยายผล สนับสนุนให้เกิดการดำเนินการทั่วประเทศ
ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์มติชน