สพฐ.-กสศ อุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษ ช่วยเหลือตั้งแต่อนุบาลถึงชั้นม.3
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) – สพฐ. ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดประชุมชี้แจงการดำเนินการขอรับเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ให้แก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั้ง 225 เขต และครูโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศ ผ่านระบบ Teleconference
โดยนายกวินทร์เกียรติ นนธ์พละ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาฯ กพฐ. ) กล่าวเปิดการประชุมผ่านระบบ Teleconference ว่า ในปีการศึกษา 2563 สพฐ. และ กสศ. ได้ขยายผลการพัฒนาและบูรณาการร่วมกัน ทั้งความช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษ ตั้งแต่ระดับอนุบาล–มัธยมศึกษาตอนต้น ทั่วประเทศ ให้ได้รับการช่วยเหลือเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข นอกจากนี้ยังบูรณาการการบันทึกข้อมูลเพื่อเยี่ยมบ้านและบันทึกข้อมูลการคัดกรองไว้ในระบบเดียวกัน
ซึ่งความร่วมมือระหว่าง สพฐ. และ กสศ. ถือว่าประสบความสำเร็จในการปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา แต่นักเรียนกลุ่มนี้ยังมีความเสี่ยงด้านอื่นๆ เช่น สุขภาพ การเรียนรู้ พฤติกรรม เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยทำให้หลุดออกจากระบบการศึกษา สพฐ.จึงขอความร่วมมือจาก กสศ. ในการทำองค์ความรู้และวิจัยพัฒนาหาแนวทางส่งต่อการดูแลเพื่อให้ สพฐ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือนักเรียนยากจนได้อย่างครอบคลุม ทั้งนี้ขอขอบคุณเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา ครู ที่เป็นกำลังสำคัญจะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ ประโยชน์เกิดแก่นักเรียน และขอบคุณ กสศ. หน่วยงานใหม่ของประเทศ ที่เข้ามามีบทบาทเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือ ช่วยสนับสนุนและเติมเต็มแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้กับประเทศไทย
ด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า นับเป็นโอกาสดีที่ กสศ.ได้ร่วมงานกับ สพฐ.ในการจัดสรรทุนเสมอภาคให้แก่เด็กนักเรียนยากจนพิเศษทั่วประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีเด็กยากจนพิเศษอยู่กว่า 7 แสนคน ซึ่งในปี 2563 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
คาดว่าจะมีจำนวนนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษเพิ่มขึ้น ดังนั้นทาง กสศ.จึงมีมาตรการช่วยเหลือฉุกเฉินในสถานการณ์โควิด-19 หากนักเรียนคนใดที่ไม่ผ่านเกณฑ์ยากจนพิเศษ ปี 2562 ก็สามารถสมัครเข้ามาใหม่ได้เลย โดยไม่ต้องรอ หากมีหลักฐานใหม่ว่าพ่อ แม่ตกงาน หรือได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีรายได้อยู่ภายใต้เส้นความยากจนพิเศษ
“กสศ.ได้เตรียมงบประมาณไว้รองรับจำนวนเด็กยากจนพิเศษที่อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 – 9 แสนคน และ กสศ.ได้เปิดกระบวนการคัดกรองนักเรียนยากจนพิเศษในส่วนของนักเรียนกลุ่มใหม่ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล -ชั้นมัธยมต้น โดยมีคุณครูที่สำรวจ/สอบถามข้อมูลจากผู้ปกครอง
จึงขอให้ครู และผู้ปกครอง ส่งรูปถ่าย หรือข้อมูลเข้ามาในระบบได้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2563 นี้” ดร.ไกรยส กล่าว
ดร.ไกรยส กล่าวอีกว่า ในปีนี้ กสศ.ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมในส่วนของเด็กอนุบาล ทั้งประเทศ 76 จังหวัดเป็นปีแรก ดังนั้นหากผู้ปกครองของเด็กชั้นอนุบาลทั้งสังกัด สพฐ. อปท.และ ตชด. สามารถสมัครเข้ารับเงินอุดหนุนนักเรียนทุนเสมอภาคได้เลย และถ้าได้รับจัดสรรเงินทุนตั้งแต่ระดับอนุบาลแล้วก็จะได้รับทุนนี้ไปจนถึงระดับมัธยมต้นด้วย และทุก 3 ปี จะมีการคัดกรอง 1 ครั้ง เพื่อตรวจสอบว่าสถานะทางครัวเรือนอยู่ในข่ายยากจน หรือยากจนพิเศษหรือไม่
โดยนักเรียนยากจนพิเศษตั้งแต่ระดับ อนุบาล-ม.ต้น จะได้รับการจัดสรรทุนเสมอภาคจำนวน 2,000 บาทในเทอม 1/2563 ทันที เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครอบครัว
และเทอมที่ 2 จะได้รับทุนอีก 1,000 บาท
ดร.ไกรยส กล่าวว่า ในปีนี้ กสศ. ได้รับความร่วมมือจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) และธนาคารออมสิน มาช่วยอำนวยความสะดวก และการเปิดบัญชีนี้เด็กไม่จำเป็นต้องฝากเงินและทางธนาคารมีการยกเว้นค่ารักษาบัญชีของนักเรียนยากจนพิเศษ และสามารถโอเงินผ่านพร้อมเพย์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการเปิดบัญชีศูนย์บาทไร้ค่าทำเนียม และทางธนาคารจะให้ความรู้ทางการเงินแก่นักเรียนด้วย
สำหรับเกณฑ์การคัดเด็กยากจนพิเศษ มี 2 ลักษณะ คือ เกณฑ์รายได้ 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน และเกณฑ์สถานะของครัวเรือน เช่น มีทรัพย์สิน ที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ รถยนต์มีสภาพเก่ากว่า 15 ปี บ้านมีสภาพทรุดโทรม ครอบครัวไม่มีรายได้ พ่อ แม่ไม่มีงานทำ หรือมีภาวะทุพลภาพ และต้องมีภาพถ่ายประกอบพร้อมจีพีเอส และมีเลข 13 หลักเพื่อนำไปเชื่อมโยงกับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่นๆเพื่อเช็คสถานะความยากจน แต่ช่วงนี้ กสศ.จะมีความยืดหยุ่นเกณฑ์ให้ เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งบางพื้นที่อาจะเป็นพื้นที่เสี่ยงคุณครูอาจจะไปเยี่ยมบ้านนักเรียนไม่สะดวก จึงให้ผู้ปกครองส่งข้อมูลทางไปรษณีย์ได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทางไปในที่ต่างๆ
ครูอัพเดตดอทคอม ขอขอบคุณที่มาข่าวจาก อีทีวีแม็ค