
11 กิจกรรม สร้างลูกให้ฉลาด ในช่วงปิดเทอม
“ปิดเทอม” ช่วงเวลาที่เด็ก ๆ เฝ้ารอ เพราะจะได้ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ได้นอนตื่นสาย ไม่ต้องรีบเข้านอน ได้เล่นเกม ดูหนัง ดูการ์ตูนทั้งวัน ได้ทำในสิ่งที่อยากทำที่ในช่วงเปิดเทอมทำไม่ได้ แต่ความรู้สึกนี้กลับตรงข้ามกันกับผู้ปกครอง โดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้านเกิดความกังวลใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเป็นช่วงที่สิ่งเร้าต่าง ๆ ทั้งโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือเกม เข้ามาดึงลูกให้ติดได้ง่าย แล้วจะดูแลลูก ๆ อย่างไรดีในช่วงปิดเทอม?
จากการศึกษาของกระทรวงศึกษาของสหรัฐอเมริกาพบว่าเด็ก ๆ ขาดการเรียนรู้ไปถึง 25 % ในช่วงปิดเทอม จากการศึกษาของ แฮริส คูเบอร์จากมหาวิทยาลัยดุกค์ พบว่าผู้ปกครองที่มีฐานะปานกลางและร่ำรวยจะช่วยให้ลูกมีการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องในช่วงปิดเทอมได้ โดยใช้วิธีส่งลูกไปเรียนพิเศษหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่กระตุ้นการเรียนรู้ แต่แท้ที่จริงแล้วเด็กๆสามารถเรียนรู้และสนุกสนานในช่วงปิดเทอมได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากมาย กิจกรรมต่อไปนี้จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้อย่างง่าย ๆ มีดังนี้
2. เล่นกีฬา กิจกรรมการเล่นกีฬาไม่เพียงแต่พัฒนาความแข็งแรงด้านร่างกายเท่านั้นแต่ยังพัฒนาสมองอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นบาสเกตบอล แชร์บอล ฟุตบอล เทนนิส การขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เทควันโด ล้วนแล้วแต่พัฒนาความเชื่อมั่นในตัวเอง การทำงานเป็นทีม ความสามัคคี และการคิดอย่างมีเหตุผลอีกด้วย เด็กที่มีอายุ 14 ปีขึ้นไปหากฝึกการเล่นกีฬาจะทำให้ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อ มีสุขภาพที่ดี มีการพัฒนา และติดไปจนเป็นนิสัยจนโต
3. อ่านหนังสือ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าการอ่านช่วยพัฒนาสมองในระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้นการจัดเวลา และให้เด็กมีโอกาสได้อ่านหนังสือประมาณ 1 ชั่วโมงต่อหนึ่งวันจะช่วยให้เด็กมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น มีนิสัยรักการอ่าน เปิดโลกจินตนาการ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ดีกว่าการดูทีวีทั้งวัน หรือเล่นมั่วสุมกับเพื่อนๆ การให้เด็กมีโอกาสไปห้องสมุด หรืออาจให้รางวัลเล็กๆน้อยๆกับเด็กหลังจากการอ่านจะช่วยกระตุ้นให้เด็กรักการอ่านมากขึ้น และจะติดเป็นนิสัยไปจนโต
4. เล่นหมากรุก หรือหมากฮอส การเล่นเกมบนหมากกระดาน จะช่วยพัฒนาสมองได้อย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิติสัมพันธ์ การเรียนรู้เรื่องของตัวเลข ทิศทางความสัมพันธ์ จากกศึกษาที่ฮ่องกงพบว่าการเล่นหมากกระดานช่วยพัฒนาการเรียนรู้ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ได้ถึง 15% หลังจากทำแบบทดสอบ ในปัจจุบันเด็กมักไม่สนใจการเล่นเกมหมากกระดานเท่าไหร่ เนื่องจากชอบการเล่นเกมคอมพิวเตอร์มากกว่า การเล่นหมากรุกต้องใช้ความอดทนและฝึกสมาธิ ดังนั้นผู้ปกครองควรเสริมแรงให้เด็กรักการเล่นหมากกระดานต่างๆ โดยการเล่นกับเด็ก สอนวิธีเล่นอย่างสนุกสนาน และให้รางวัลเล็กๆน้อยๆ เพื่อที่เด็กจะหันกลับมาสนใจการเล่นหมากกระดานมากขึ้น
ไม่เพียงแต่การเล่นหมากรุกและหมากฮอสเท่านั้น การต่อคำศัพท์ ( Scrabble) เกมเศรษฐีหรือเกมบนกระดานต่างๆ จะช่วยพัฒนาคำศัพท์และรู้จักความหมายของคำ และช่วยพัฒนาภาษา การคิดเลข การใช้เงิน การนับ และถ้าเล่นกันหลายคนรวมกัน จะช่วยพัฒนาด้านการปรับตัวเข้ากับสังคม รวมทั้งการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย
5. เรียนรู้ทางดนตรี ดนตรีนับว่าเป็นกิจกรรมที่พัฒนาสมองและเป็นกำไรในการสร้างความฉลาดที่แสนสนุกอีกอย่างหนึ่งในช่วงปิดเทอม เด็กๆสามารถหาเวลาฝีกซ้อมในระหว่างวัน กิจกรรมดนตรีถือว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างวินัย สร้างความอ่อนโยนและช่วยพัฒนาสมองไปในตัว
6. ทำสวน การทำสวนถือว่าเป็นการสอนธรรมชาติศึกษาให้แก่เด็ก ทำให้เด็กๆรักธรรมชาติ สร้างโลกสีเขียว ลดมลพิษทางอากาศและทำให้มีจิตใจที่อ่อนโยนอีกด้วย
7. เรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ช่วยพัฒนาคำศัพท์ การติดต่อสื่อสาร และการเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนั้นๆอีกด้วย การให้เด็กได้อ่านหนังสือ เรียนรู้คำศัพท์ที่สนุกสนานจะช่วยให้เด็กๆรักการอ่านไปในตัว รวมทั้งพัฒนาความสามารถในการเขียนในอนาคต ในปัจจุบันการค้าเสรีเข้ามามีบทบาท การเปิดตัวกับต่างประเทศมีมากขึ้น ดังนั้นภาษานับว่าเป็นสิ่งที่จะเป็นอย่างยิ่ง
8. จดบันทึก การเขียนไดอารี่ การจดบันทึกจะช่วยพัฒนาการเขียน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็น การจดบันทึกจะช่วยพัฒนาความคิดในการวางแผน การรู้จักตนเอง รวมทั้งเป็นการช่วยระบายความคับข้องใจ ความเครียด ช่วยทำให้เด็กมีสุขภาพจิตที่ดี
9. เขียนเรื่องสั้น เขียนเรื่องราวในจินตนาการและท่องโลกในจินตนาการ การเขียนช่วยพัฒนาคำศัพท์ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกผ่านตัวอักษร ซึ่งไม่แน่ลูกของเราอาจจะเป็นนักเขียนรางวัลซีไรท์ในอนาคตอันใกล้นี้ก็ได้
10. เล่นเกมการศึกษา และเกมที่มีคุณค่าทางคอมพิวเตอร์ มีนักการศึกษามากมายต่อต้านการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ นั่นหมายถึงเกมที่มีความรุนแรง หรือเกมที่เด็กติดจนไม่มีอันจะทำอะไร แต่เกมการศึกษาหรือเกมคอมพิวเตอร์บางอย่าง จะช่วยพัฒนาสมองและสร้างความสนุกสนานที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยได้ ดังนั้นการจัดเวลา การดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการคัดสรรเกม นับว่ามีประโยชน์และจำเป็นเพราะเป็นทักษะที่สำคัญในอนาคต
11. เรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ การแก้ปัญหาโจทย์คณิตศาสตร์ การฝึกการสังเกตความเหมือนและความแตกต่าง การนับ การเพิ่มขึ้นและลดลง กิจกรรมคณิตศาสตร์เหล่านี้เด็กๆควรได้รับการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการบวกตัวเลขทะเบียนท้ายรถคันหน้า การสังเกตป้ายโฆษณา การช่วยคุณแม่ไปซื้อของที่ร้าน การทำแบบฝึกหัดที่สร้างสรรค์ ล้วนแล้วแต่เป็นการพัฒนาทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็นสำหรับชีวิตในอนาคต
ครูอัพเดตดอทคอม ขอบคุณที่มา : http://www.edtguide.com/